ถ้าทุกวันนี้คุณตื่นมาแล้วปวดคอ ทายาก็แล้ว ไปนวดก็แล้ว พักผ่อนเป็นสิบๆ ชั่วโมงก็ไม่หายปวด นั่นเพราะสาเหตุหลักไม่ใช่แค่พฤติกรรมระหว่างวันของคุณ แต่เกิดจากหมอนที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่เหมาะกับสรีระของคุณต่างหากล่ะคะ แล้วจะต้องเลือกหมอนอย่างไรถึงจะหายปวดคอสักที เริ่มต้นด้วยสิ่งที่สังเกตง่ายที่สุดอย่างรูปทรงหมอนกันก่อนเลยค่ะ แต่แหม ท้องตลาดเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีหมอนสุขภาพแค่ 1 – 2 แบบให้เลือก แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะคะว่าหมอนสุขภาพแบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด ช่วยให้หายปวดคอได้มากที่สุด วันนี้เดลิเซียมีคำตอบให้ค่ะ
หมอนสุขภาพรูปทรงมาตรฐาน
เริ่มต้นจากรูปทรงที่ขายกันอยู่ทั่วไปกันเลยค่ะ หมอนแบบนี้จะตัดเย็บผ้าหุ้มหมอนเป็นสี่เหลี่ยม แล้วบรรจุเส้นใย หรือวัสดุอื่นๆ เข้าไปด้านใน ตามน้ำหนักที่กำหนด โดยจะเน้นที่ความนุ่มสบาย หรือความแน่นของเส้นใยด้านในเป็นหลัก
- ข้อดี: หมอนสุขภาพแบบนี้จะเน้นที่ความนุ่มสบาย มีหลากหลายความนุ่ม แน่นให้เลือกซื้อ
- ข้อเสีย: เส้นใยยุบตัวได้ง่าย ความสูงของหมอนอาจไม่เหมาะกับสรีระร่างกาย เมื่อนอนแล้วไม่รองรับต้นคอ เพราะหมอนรูปทรงนี้จะยุบตัวทำมุมเอียงขึ้น ตำแหน่งของคอ บ่า ไหล่ จะอยู่ต่ำที่สุด ทำให้กระดูกต้นคอและสันหลังงอ
หมอนสุขภาพรูปทรง S curve
หมอนสุขภาพรูปทรงนี้ ตามท้องตลาดทั่วไปมักผลิตจากยางพารา หรือเมมโมรีโฟม มีส่วนโค้งขึ้นเพื่อรับกระดูกต้นคอ และส่วนที่เว้าลงเพื่อรับศีรษะ ซึ่งเป็นรูปทรงที่ถูกออกแบบตามลักษณะการเรียงตัวของแนวกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ
- ข้อดี: รองรับสรีระได้ดี เหมาะกับการนอนหงาย เนื่องจากจะรองรับแนวกระดูกสันหลังในท่านี้ได้ดีที่สุด
- ข้อเสีย: เนื่องจากต้องให้หมอนคงรูปทรงเพื่อรองรับกระดูกสันหลังและต้นคอ ทำให้มักถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่คงรูป มีความยืดหยุ่นต่ำ ทำให้ขาดความนุ่มสบาย และไม่สามารถที่จะซักทำความสะอาดได้ ไม่เหมาะกับการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ จะทำให้นอนไม่สบาย
หมอนสุขภาพรูปทรง C curve (Heart Shape)
หมอนสุขภาพทรง C curve หรือหมอนรูปหัวใจ จะมีส่วนเว้าโค้งเข้าบริเวณด้านล่าง ชิดกับไหล่ เเพื่อป้องกันการนอนตกหมอน ที่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการปวดคอ หมอนสุขภาพรูปทรงนี้มักถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่คงรูปเช่นเดียวกับ S curve
- ข้อดี: ป้องกันการนอนตกหมอนได้ดี ความโค้งของหมอนทำให้สามารถดึงเข้ามาชิดคอ บ่า ไหล่ได้ง่าย จึงช่วยรองรับต้นคอได้
- ข้อเสีย: ขาดความสบาย ท่านอนถูกบังคับให้อยู่ในท่าเดียวตลอดคืนเนื่องจากรูปทรงของหมอน วัสดุที่ใช้ผลิตหมอนรูปทรงนี้มักขาดความยืดหยุ่น แม้หมอนจะเข้าแนบชิดต้นคอได้ดี แต่ศีรษะไม่มีส่วนรองรับตามความโค้งของกระโหลกศีรษะ ทำให้แนวกระดูกโค้งขึ้น ไม่อยู่กับแนวระนาบตามธรรมชาติ
หมอนสุขภาพรูปทรงสี่เหลี่ยม มีลอน
หมอนสุขภาพลักษณะนี้เริ่มมีออกมาให้เห็นในท้องตลาดบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นหมอนสุขภาพรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดข้อด้อยของหมอนสุขภาพรูปทรงต่างๆ ด้านบน วัสดุที่ใช้บรรจุในหมอนเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง กระจายน้ำหนักได้ดี และไม่คงรูปจนเกินไป ลอนของหมอนถูกออกแบบเพื่อเป็นตัวยึดเส้นใยให้ไม่ยุบตัว นอกจากนี้ยังช่วยแบ่งส่วนรองรับสรีระให้ได้พอเหมาะพอดี
- ข้อดี: แบ่งส่วนรองรับสรีระได้ดี มีลอนที่ช่วยไม่ให้เส้นใยยุบไวเกินไป ซักทำความสะอาดได้
- ข้อเสีย: หมอนสุขภาพรูปทรงนี้บางรุ่นไม่สามารถปรับความสูงต่ำของหมอนได้ ทำให้อาจไม่เหมาะกับสรีระของทุกคน
หมอนสุขภาพเดลิเซีย รูปทรงที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการนอน
อ่านมาถึงตอนนี้คงสนใจหมอนรูปทรงเหลี่ยมที่มีลอนกันไม่มากก็น้อย เดลิเซียขอแนะนำหมอนสุขภาพลดปวดคอ รุ่น Customized Pillow เลยค่ะ หมอนสุขภาพจากเดลิเซียรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อคุณภาพการนอนโดยเฉพาะ โดยสามลอนที่หมอนสุขภาพเดลิเซียมีไม่เพียงจะช่วยถนอมเส้นใย ยังเป็นตัวแบ่งสัดส่วนเพื่อการนอนที่เหมาะสม ลดอาการเกร็งของคอ บ่า ไหล่ แค่นอนให้ศีรษะอยู่บนลอนกลาง และต้นคออยู่บนลอนด้านล่าง ไหล่ชิดกับหมอน ก็ทำให้นอนพักผ่อนโดยไม่ปวดคอแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนี้ความสูงของเดลิเซีย เริ่มต้นที่ 10 ซม. แต่เรารู้ดีว่า สรีระของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของหมอนสุขภาพเดลิเซียคือ สามารถปรับ ลด ปริมาณเส้นใยได้ตามที่ชอบ เพื่อให้ความสูงของหมอนพอเหมาะกับร่างกายของเรามากที่สุด ไม่ใช่แค่นั้นค่ะ หากคุณมีหมอนสุขภาพเดลิเซียไว้ในครอบครอง ก็เท่ากับมีหมอนให้เลือกนอนถึง 2 แบบ เพราะเดลิเซีย บรรจุเส้นใย 2 ชนิดในแต่ละด้าน ให้คุณเลือกนอนตามความเหมาะสม
ตอนนอนเล่น อาจเลือกนอนด้านแน่น ดูทีวีเพลินๆ เหมือนได้นวดคอไปในตัว หรือเวลานอนหลับพักผ่อน อาจเลือกนอนด้านนุ่ม เพื่อความนุ่มสบายขั้นสุด เหมือนได้นอนหมอนขนห่านแพงๆ